วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

สามเหลี่ยมเบอรืมิวด้า





เบอร์มิวด้า อยู่ในบริเวณ ของ มหาสมุทร แอ๊ตแลติค พื้นที่ เริ่มจากตอนเหรือของเบอร์มิวด้า ไปถึงตอนใต้ของ รัฐฟลอริด้า และจากฟลอริด้า ถึงบาฮามัส และย้อยไปเบอร์มิวด้า อีครั้ง พื้น ที่ตรงนี้เอง ที่เรียก ว่าสามเหลื่ยม เบอร์มิวด้า มีเรือเดินสมุทร จำนวน 156ลำ(1898-1990) และ เครือง บินอีก นับไม่ถ้วน หายไป อย่างลึกลับ โดยไม่มี ร่องรอย ชีวิตมนุษจำนวน นับพัน หรือ แม้แต่ เศษเคื่องบิน หรือเรือเดิน สมุทร เครื่องบินที่ หายไปอย่างไร้ ร่องรอย เหนือพื้นที่ ลึกลับแห่งนี้ มักจะ หายไป จาก จอเรด้า ไปเลยโดนไม่มี สัญญาน บ่งบอก ถึง ความตายที่ รอ อยู่หน้าทั้งสภาพของ อากาศ และทัศนะวิสัย สงบ ไร้วี่แววของ พายุ แต่ บาง ครั้ง ก็การติดต่อ มายังศูยการบิน ว่า ไม่สามารถควบคุม ระบบต่างๆ ของเครื่องได้ เข็มทิศ มุนปัด ไม่สามาถร บอก ทิศทางได้ ท้องฟ้า ที่ไร้ วี่แวว ของ พายุ กับ กลาย เป็นครึ้มฟ้า ครึ้มฝน พายุขานใหญ่ เกิด ขึ้น ดูด น้ำ จาก มาหาสมุทขึ้นมา นับ สูงนับ ร้อยฟุต โดนไม่รู้สาเหตุ เหตุการที่เกิด ขึ้นกับ เรือเดินสมุทร เมื่อ เล่นเรือไป ยัง ศูนกลางของ สามเหลี่ยม เบอร์มิวด้าก็หายไปอย่าง ลึก ลับ โดยไร้วี่แวว คนที่รอดชีวิต เรื่องเล่า ของเรือ มารีนซันเฟอร์ควีน ที่หายไป เมื่อ 2กุมภาพันธ์ ปี 1863 ก่อนที่จะมีการ บันทึกจำนวนเรือที่หายไป ในสามเหลื่ยมเบอร์มิวด้า 25ปี เล่ากันว่าเรือเครื่องจักไอน้ำลำนี้ได้ เจอ เข้า กับวัตถุ ลืก ลับ หรือ สิ่งมีชีวิต อะไรสักอย่าง ฉุด เรือลำนี้ใว้จนไม่ สามารถ แล่นเรือต่อไปได้ รอถึง 28ชั่วโมงจนข้าถึง วันที่ 1กุมภาพันธ์ ปี1863 จึงรอดพ้น สิ่งลึกลับนี้มาได้ นี้คือสิ่งแรกที่ เรือโชคร้ายลำนี้เจอ กับตัน สั่งให้ หันหัวเรือทำมุม 43 องศา กับเส่นรุ้ง มุ่งหน้าเข้าสู่ รัฐ ฟอริด้า ก่อน ถึง จุดศูยกลาง ได้ เกิดพายุทำให้ เกิด พายุขนาดใหญ่( ไม่มีการ บันทึก ความรุนแรงแต่ ลองประเมิน พายุที่ สามาถร จมเรือ ขนาดแรงขับน้ำ 65000ตัน น่าจะอยู่ใน ระดับ 4) แล้วเรือ ลำนี้ก็ หายไปอย่างลึกลับ 13 สิงหาคม ปี 1942 เรือสัญชาติ ญี่ปุ่น ชื่อ ไรฟุกุมารุ ได้ วิทิยุ ขอคาวม ช่วย เหลือ ขนะอยู่ ระหว่าง คิวบา และบาฮามัส ว่า ได้ ติดอยู่ กลาง พายุ แล้ว หายไป อย่างไร้ ร่อง ลอย จนกระ ทั่ง ปี 1955 เรือจับ ปลา ขนาด เล็ก ลำหนึ่ง ได้เจอเข้ากับเรือ ไรฟุกุมารุ เกย ตื่น อยู่ ในแนว ปะการัง ในหมู่เกาะเล็กๆ เจอกับ บันทึกการเดินเรือ ของ กับตัน แต่ ยังคง เป็น ความลับ อยู่ถึงปัจจุบรร ว่าใน บันทึก เล่มเล็กๆ เล่มนั้น มีความลับอะไรซ่อนอยู่ มัน คือ หลักถานอย่างเดียว ที่เหลือรอดจาก เหตุการ ที่ผู้คนนับพัน ไม่สามรถ ฝื้นขึ้นมา บอกเล้าให้คนรุ่น หลังอย่างเราได้ฟังได้

ทางนักวิชาการก้อมีการเสนอทฤษฎีต่างๆนานา บ้างก้อว่าเกิดจากความผิดปกติของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า บ้างก้อว่าเกิดจาอำนาจของสิ่งบินลึกลับ หรือที่เราเรียกกันว่า UFO จนคล่องปาก เป็นเวลานานมาก ที่เจ้าดินแดนปริศนาแห่งนี้ ลือกันไปจนทั่วโลก ในฐานะของดินแดนมรณะที่ดูดกลืนชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่สัญจรผ่านไปในบริเวณนั้น



ตามสภาพภูมิศาสตร์ทางที่ตั้ง บริเวณนี้เป็นบริเวณที่แปรปรวนมาก เพราะมีทั้งกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นไหลมาผสมปนเปกัน จนบางทีก้อเกิดสภาพอากาศแบบแปรปรวนกระทันหัน นี่แหละคือตัวอันตรายที่จะไม่สามารถพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้เลย นอกจากนี้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ายังจัดเป็นเขตอันตรายที่มักปรากฎคลื่นขนาดยักษ์ที่เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง อะไรที่ขวางหน้า กวาดไปเรียบน่ะ ไม่มีเหลือซาก หุหุ

คลื่นบางลูกก้อทำให้เกิดสะดือทะเล คือผืนน้ำจะเปิดเป็นช่อง หมุนเป็นเกลียวดูดกลืนทุกอย่างเข้าสู่วังวน เรือที่หมุนเข้าไปก้อจะพลิกคว่ำและอับปางได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่สาเหตุที่กล่าวมา ก้อยังไม่ดึงดูดใจนักลึกลับศาสตร์แม้แต่น้อย อีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจ ที่มินคิดว่ามีคนสนใจสนับสนุนน้อยก้อคือ มีสิ่งมีชีวิตบางประเภทที่อยู่นอกสารบบของวงการชีววิทยาปัจจุบันค่ะ เพราะว่ามีข่าวลือมากมายจริงๆ กับการค้นพบเจ้าปลาหมึกยักษ์ยาวหลายร้อยฟุต จนไปถึงงูยักษ์หรือว่าเจ้าพวกมังกรทะเล ซึ่งแต่ละปีมีการรายงานสัตว์ตัวยักษ์จำนวนมากทีเดียวในบริเวณนี้ แต่ก้ออีกนั่นแหละที่เป็นไปไม่ค่อยได้คือเจ้าสัตว์เหล่านี้ จะมีปัญญาสยบเครื่องบินที่บินฉวัดเฉวียนอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างไร






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น